MIZUNO-WAVE REBELLION PRO

Mizuno Wave Rebellion Pro – Unisex

“Super Shoes ที่ไหลและกลิ้งที่สุดในโลก”

Mizuno ถือเป็นแบรนด์ที่มีเรื่องเล่าและตำนานมาอย่างยาวนานเพราะก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2449 จนถึงปัจจุบันก่อตั้งมาแล้วกว่า 117 ปี

หากแต่ในช่วงหลายปีหลังผลิตภัณฑ์ของ Mizuno จะเน้นไปทางแนว Conservative (อนุรักษ์นิยม) โดยแต่ละรุ่นมีการพัฒนาหรือ ปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ฐานผู้ใช้เดิมของ Mizuno มีความเหนียวแน่นมาก แต่ในทางตรงข้ามผู้ใช้ใหม่ๆ ก็รู้สึกว่า Mizuno ขาดเสน่ห์ หรือแรงดึงดูด

และในช่วงที่ทุกๆแบรนด์มีรองเท้า super shoes Mizuno ก็ปล่อย Rebellion (กบฏ) ซึ่งถือเป็นรองเท้าที่ฉีกภาพจำเดิมๆ ทั้งของแบรนด์และตลาดรองเท้า super shoes โดยจุดสำคัญคือช่วงกลางรองเท้ามีความหนาถึง 50 mm. ซึ่งตามกฎ IAAF รองเท้าต้องมีความหนาด้านหน้า และด้านหลังไม่เกิน 40 mm. ทำให้ทุกแบรนด์ทำความหนาของรองเท้าได้ไม่เกิน 40 mm.

แต่ Mizuno กลับใช้กฎนี้เองสร้างความได้เปรียบเพื่อเทคโนโลยีของตัวเองแบบไม่ผิดกติกา กล่าวคือ ด้านหน้าของรองเท้ามีความหนา 33 mm. ช่วงกลางรองเท้า 50 mm. และส้นรองเท้า 39 mm. ผ่านตามกฎทุกอย่าง แต่ตัวรองเท้ามี support ที่ดีกว่า และความที่หนากว่า ทรงรองเท้าเชิดกว่า ทำให้ตอนนี้ Mizuno Rebellion Pro จะกลายเป็นรองเท้าที่ไหลและกลิ้งที่สุดในโลก ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก และด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ แสงสปอตไลน์จึงเริ่มฉายมาที่ Mizuno โดยเฉพาะรุ่น Wave Rebellion Pro นั่นเอง

Weight: 220 กรัม (US M9)
Stack: 39.5-35 mm.
drop: 4.5 mm.

Upper
– Engineered Mesh แบบไร้รอยต่อ น้ำหนักเบา เน้นการระบายอากาศ
-ลิ้นรองเท้าเป็นแบบางเข้ากับรูปเท้าได้ดี

Midsole
– ใช้โฟมที่ดีที่สุดของแบรนด์ 2 โฟมได้แก่ Mizuno Enerzy lite+ และ Mizuno Enerzy lite ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องความนุ่ม มีแรงส่งดีและน้ำหนักเบา (โฟม Lite+ จะนุ่มกว่าและเบากว่าโฟม Lite)
– Mizuno Wave แผ่นคาร์บอน infuse ไนล่อน โดยประกอบด้วยคาร์บอน 30% และ ไนล่อน 70% ที่แทรกอยู่ระหว่างชั้นโฟม
– SMOOTH SPEED ASSIST ทรงรองเท้าที่เพิ่มโมเมนตั้มการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มความเร็วแล้วยังช่วยให้การวิ่งลื่นไหลเป็นไปตามธรรมชาติอีกด้วย

Outsole
– G3 Outsole เป็นวัสดุ PU Resin ที่มีจุดเด่นเรื่องการยึดเกาะ

Conclusion

Rebellion ถือเป็นรองเท้า super shoes ที่ใช้เทคโนโลยีสูงสุดของแบรนด์ Mizuno ในทุกๆองค์ประกอบของรองเท้า เหมาะกับคนที่หารองเท้าเพื่อใส่ทำความเร็วตั้งแต่ระยะ 5 km.จนถึง 42 km. โดยตัวรองเท้ามีความโดดเด่นแตกต่างจาก super shoes อื่นคือเรื่องความกลิ้ง และไหลแบบดุดันไม่เกรงใจใคร

อย่างไรก็ดีตัวรองเท้าใส่ไม่ง่ายจึงอาจไม่เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้นวิ่ง หรือกำลังมีปัญหาอาการบาดเจ็บ เนื่องจากทรงรองเท้าต้องการกล้ามเนื้อที่แข็งแรงเพื่อตอบสนองความดุดันของรองเท้านั่นเอง

ข้อควรระวัง
**รุ่นนี้ size รองเท้าสั่นกว่าปกติ แนะนำเพิ่ม 0.5 size