Asics Magic Speed [Review]
Posted by RUN 2 PARADISE on July 07, 2021 in Running Shoes
Run2Paradise ชวนพี่ๆมาร่วมแชร์ประสบการณ์การใช้งานจริงกับ “Asics MagicSpeed”
โดย Run2Paradise เป็นตัวแทนรวบรวมรีวิวจากพี่ๆ โดย R2P หวังว่าการทำโปรเจคข้อมูลจากรีวิวจะช่วยประกอบการตัดสินใจในการเลือกรองเท้าของพี่ๆ ได้ครับ
- อาจารย์จรัญ (JRun)

Size 10.5 us 28.25 cm.
น้ำหนัก 255 กรัม
โฟม Blast มี Carbon 2/3
Drop 29-24 = 5 มม.
รองเท้าสมัยนี้ แพงจริงเหรอ
ย้อนหลังไป 10 ปีกว่าๆ ใครได้ครอบครอง Asics sky sensor หรือ Tather japan ต้องจ่ายมากกว่า 7000 บาท
ผมมีโอกาสได้ใช้รองเท้าของเอสิคอยู่ 4 รุ่น Kayano 15 Tather Skysensor และ Lytracer ts ใน 4 คู่นี้ ผมชอบ tather และ lytracer มากที่สุด
วันนี้ผมได้ใช้ รองเท้าค่าย เอสิคอีกครั้ง เป็น Magic Speed
เริ่มด้วยการใส่เดิน 2 กม. จะนุ่มที่ส้นเท้า หน้าเท้าเทไปข้างหน้าตามสไตล์ม้าโยก
ออกไปจ๊อครู้สึกถึงความไหลและนุ่มหน้าเท้า เด้งเล็กน้อย อุ่นเครื่องไป 4 กม.
จัดหนัก 1 กม. ทดสอบความเร็ว เวลาหน้าเท้าลงสัมผัสพื้น มันนุ่มจนรู้สึกจะเสียความเร็ว แต่ก็ได้ความเร็วไม่ธรรมดา เรียกว่า นุ่มเด้ง เหมือนกัน แต่นุ่มมากกว่าเด้ง
จบ 1 กม. ไป Interval 100×10 ดีเหมือนกัน เหนื่อยน้อยหน่อย และคูลดาน์วอีก 2 กม. จบครบกระบวนความ
2. Champ Pipatpon

ย้อนกลับไปสมัยเรียน ในช่วงที่ยังสามารถสมัครแข่งวิ่งได้ในช่วงเช้าวันแข่งขัน และตัวผมยังเน้นซ้อมที่ High intensity มากๆสมัยเป็นนักวิ่ง 5,000 เมตร ซึ่ง Asics นี่แหละครับ เป็นยี่ห้อที่ผมใช้วิ่งในวันที่ต้องทำความเร็วสูงๆอยู่เสมอ จึงมีความรู้สึกคุ้นชินกับแบรนด์นี้อยู่ลึกๆ
ความประทับใจแรกจากรูปลักษณ์ภายนอก
โดนใจกับสีที่โดดเด่น และรูปทรงที่ดูเนียนตา ถ้าเป็นผู้หญิงก็อาจจะเป็นสาวเปรี้ยวที่แฝงความเซ็กซี่ในแววตา ให้ผู้ชายส่วนมากได้เหลียวหลังครับอันนี้ผ่านมาก
ความรู้สึกเมื่อได้ลองใส่
รองเท้าให้ความรู้สึกไหล เด้ง มีความกระด้าง แต่สบาย คือถ้าจะพูดให้เห็นภาพ มันเหมือนเอารองเท้าแข่งของ ASICS ในยุคเก่า มาทำให้นิ่มสบาย และ เด้งขึ้นครับ และยังให้ความรู้สึกที่มั่นคงกว่าในทุกๆก้าว โดยถ้าเทียบกับ Super Shoes จากค่ายอื่นที่เคยลองใส่ ความรู้สึกอาจจะไม่รู้สึกว่าเด้งเท่า แต่สำหรับผมมันทดกันด้วยความมั่นคงที่มีมากกว่า ซึ่งผมว่าสำคัญในการวิ่งนะครับ และอีกจุดหนึ่ง ทรงของรองเท้ามันเหมือนช่วยเราให้รอบขามันสามารถมาได้เรื่อยๆ จากแรงที่เราส่งออกไปอันนี้เจ๋งจริง
สำหรับผมเป็นรองเท้าที่ดีมากอีกคู่หนึ่งที่เคยได้ใส่มาเลย สายนิ่มอาจจะไม่รู้สึกชอบหรือประทับใจขนาดนั้น แต่ถ้าชอบแนวดิบๆแบบผม ผมว่าคู่นี้ตอบโจทย์มากเลยครับ
ทั้งหมดจากความรู้สึกจริง ไม่มีเรื่องใดแต่งเติมทั้งสิ้น ครับ
3. Bank Golatat

Asic Magic Speed ที่มาพร้อมกับ foam ff blast ตัวเดียวกับ Novablast พร้อม แผ่นคาร์บอน!! ครึ่งนึง(กลางเท้าถึงปลายเท้า)
ฟิวแรกที่ใส่ รู้สึกเบา แต่น้ำหนักจริงไม่เบาขนาดนั้น (249 กรัม 10us) แต่รู้สึกคล่องตัว stable น่าจะเป็นเพราะ foam ff blast ที่ หนึบ เด้ง รวมถึง ทรงรองเท้า ที่เป็น aggressive Rocket shape แค่ใส่เดิน ก็รู้สึกถึงความกลิ้งเท้าไปข้างหน้า
ใส่วิ่งจริง วันนี้วิ่ง 12โล pace 4.43 กะวิ่งประมาณ pace 5
แต่รองเท้ามันส่งมากกว่าที่คิด เลยต้องไปตามมัน 555
ความรู้สึกส่วนตัวของผม รู้สึกฟิวคล้ายๆ รองเท้า ที่เป็น flat แบบ sortie magic ,thather japan ด้วยความหนึบ ของพื้นรองเท้า แต่มี แผ่นคาร์บอนและ foamเพิ่มความเด้ง และ ช่วย support มากขึ้น
สรุป เป็นรองเท้าที่วิ่งสนุกมาก แข็งและเด้ง ไม่ยวบเลย แต่อาจจะไม่ได้ไหลขนาดนั้น สาย aggressive หน่อยน่าจะชอบ 555 ผมว่าเหมาะสำหรับการใส่มาซ้อมวิ่งลงคอร์ด หรือวิ่ง tempo ที่ใช้ความเร็วได้ดี หรือแข่งได้บ้าง สามารถใส่ทดแทนรองเท้า super shoe ที่สึกเร็วๆ ได้ดีมาก เพราะตัวนี้ พื้น outsole เป็นเทคโนโลยี Ahar ที่เค้าว่า ทนมากๆๆๆ และแล้ว คู่นี้แหละ ต้องเป็นรองเท้าซ้อมอันดับ 1 ของผมแน่นอน ตอนนี้ 5555
4. Tum BigBoss

กล่าวนำก่อนว่าผมสูง183 หนัก106กิโล ส่วนตัวเป็นชอบรองเท้าแนว Rocker Shape เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มีประสบการณ์วิ่งแค่เกือบ2ปี
First Impression ของรองเท้าคู่นี้ โฟมออกแนวเฟิร์ม สำหรับผม มันเด้งมาก มาทราบตอนหลังว่าใช้โฟมตัวเดียวกับ Asic Novablastแล้วใส่แผ่นคาร์บอน คงต้องใช้เวลานวดสักระยะ ความไหล ความกลิ่งของรองเท้ารู้สึกชัดเจนมาก ผมเป็นคนลงกลางเท้าและส้นเท้า ตอนนี้ผมใส่ไปแล้ว30กิโล หน้าผ้าระบายคือดีมาก ผมชอบอัปเปอร์ตัวนี้มากๆครับ หน้าเท้ากว้างกว่าตัวเรซซิ่งตัวอื่นๆที่ผมเคยใส่แบบเห็นได้ชัดและรู้สึกได้ ดูโปร่ง ระบายอากาศได้ดีเลย ลายบนอัพเปอร์ก็สวยงามมาก
.
พอใส่วันที่2 โฟมนุ่มขึ้นระดับนึงเลยครับ คราวนี้ผมลองเร่งความเร็วจากเพซวิ่งปกติ ก็คือถ้ากดก็ติดเลยครับ โฟมไม่ยวบเลยแม้ตัวผมจะหนักเป็น100โล โฟมเด้งและผลักตัวไปข้างหน้าอีก เป็นรองเท้าที่Perfect และทำได้ดีกว่ากว่าที่คาดหวังไว้อีกแม้เป็นเพียงแค่ตัวรองTop
.
#ข้อดีของรองเท้า Asics Magic Speed
1.อัพเปอร์คือดีงาม ระบายอากาศดีมาก(ชอบส่วนตัวเลย)มีความยืดหยุ่น ใส่สบายมาก
2.เป็นรองเท้าRacing ที่หน้ากว้างกว่าค่ายคู่แข่ง
3.โฟมรู้สึกเด้งและผลักตัวไปข้างหน้า แต่ความกลิ้งเป็นรอง Asic GL2 ที่สำคัญ นน.ตัวผมหนักเป็น100 โฟมไม่ยวบเลย
4.ดูๆแล้วพื้นมีความทนแน่นอน ใส่ได้เกิน1200กิโลขึ้นไปแบบไม่น่าห่วง
5.เป็นรองเท้าที่ใส่แผ่นคาร์บอนและราคาเข้าถึงได้ง่ายกว่าค่ายคู่แข็งที่มีราคาสูงกว่า
6.เป็นรองเท้าที่ถือว่ามี นน. เบาเลยครับ
7.ตรงHeel Cupด้านในรองเท้ามี(ขออนุญาติเรียกว่านวม) ทำให้รู้สึกสบายตรงเอ็นร้อยหวาย ไม่เสียดสีเลย
#ข้อเสียของรองเท้า Asics Magic Speed
1.คนที่เท้าล้มอยากให้ไปลองที่ร้านก่อนนะครับ ถ้าคนที่เท้าไม่แข็งแรงอาจเจอปัญหา
2.กลางเท้าค่อนข้างแคบระดับนึง เวลากลับตัว หรือเข้าโค้ง อาจจะมีปัญหาได้
3.มือใหม่ที่ต้องการความซัพพอร์ท ความนุ่ม มองข้ามรุ่นนี้ไปก่อนเลยครับ รุ่นนี้อาจจะไม่ใช่คำตอบ
5. Betto

รีวิวสบายสไตล์ นักวิ่งสายแฟชั่น
ได้ยินมาตั้งแต่ต้นปี
ถึงรุ่น Asics Magic Speed
รองเท้าที่ใส่แผ่นคาร์บอน แบบไม่เต็มแผ่น
ก็ยังสงสัย ว่ามันจะให้ความรู้สึกยังไง
เพราะตัวเองแสนจะคุ้นเคยกับ
Vaporfly Next % ไปจนถึง
Vaporfly Next % by you
((วิ่งก็น้อยแต่ก็มี Next % 10 กว่าคู่นะจ๊ะT.T ))
จากการทดลองใส่วิ่งในวันนี้
ระยะทาง 12 กิโล
บนพื้นผิวถนน ลูกรัง และ ฟุตบาท
Magic Speed ให้ความรู้สึก
เด้ง ไหล ยาวๆๆๆ
(เป็นคนชอบวิ่งเอาน้ำหนักลงปลายเท้า)
@ pace 5 จะวิ่งทำความเร็วก็รู้สึกสบาย
@ pace 6 ยิ่งรู้สึกอยากวิ่งไปเรื่อยๆ
(ต้องเอาไปลองวิ่งระยะhalf จะกลับมาบรรยายให้ฟังอีกที)
เนื้อผ้าใส่แล้วไม่รู้สึกอึดอัดหน้าเท้า
(เป็นคนหน้าเท้ากว้างพอสมควร)
อาจจะไม่ปรู๊ดปร๊าด เหมือนใส่ Next %
แต่ก็ไม่ต้องกลัวล้มเท้าพลิก
ด้วยสรีระของพื้นรองเท้าAsics
ที่มีความstable มากกว่า
ถ้าเทียบราคารองเท้าที่มีcarbon
ที่มีขายในท้องตลาด
Asics Magic Speed
ถือว่า เป็นรองเท้าสายPerformance
ที่สามารถเอื้อมถึงได้อย่างสบาย
6. NottKun Runway

ตัวนี้ที่ผมใส่จะเป็นสี Sunrise Red/White
แต่สีจริงๆเมื่อมองด้วยตาเนื้อแล้วมันจะออกชมพูส้มๆมากกว่าแดงนะครับ
ไซส์ที่ได้ลองคือ 9.5US ปลายเท้าผมจะเหลือประมาณ ความกว้าง 1 นิ้วโป้งมือ พื้นที่ด้านหน้าเท้าถือว่าเป็นรุ่นที่หน้ากว้างเลยครับ ขยับนิ้วได้สะดวก
.
มาลองดูสเปคของ Magic Speed ตัวนี้กันครับ
– น้ำหนักไซส์ 8.5 M 230 กรัม
– มีแผ่น Carbon + TPU ช่วง Forefoot ไม่เต็มเท้า
– โฟม Midsole FlyteFoam Blast + รูปทรง Guidesole (ทรงม้าโยกของเอสิคส์)
– 5 mm Drop ผู้ชาย 29/24 mm / ผู้หญิง 28/23 mm
– ผ้า Upper เป็น Engineered Mesh
– ยาง Outsole AHAR
– ลิ้นรองเท้าแบบแผ่นบาง ตรงส้นเท้ามี Cushion ล็อคข้อเท้า
.
ผมได้ทดลองไป 25 km โดยวิ่งลู่เทรดมิล 20 km และลงถนน 5 km
(วิ่งเพซ 5, 6, 7, 4, 3 เปลี่ยนเพซทุก 1 กม. บนถนนหลังฝนตก)
.
ความรู้สึกส่วนตัวที่ได้ทดลอง คือ
– น้ำหนัก ไม่ได้เบาเท่าตัว Top Racing ของหลายๆค่าย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าหนักอะไร ไม่ได้เป็นภาระ
– เนื่องจากมีแผ่น คาร์บอน+TPU ตั้งแต่กลางเท้าถึงปลายเท้า บวกกับ Guidesole หรือ ทรงม้าโยก (ที่โค้งชัดเจนช่วงปลายเท้า) ทำให้รู้สึกว่าการวิ่งจะมีความดีด และความไหลหากเราเป็นคนที่วิ่งลง กลาง และปลายเท้า หากวิ่งลงเต็มเท้า หรือลงส้นเท้าจะไม่รู้สึกว่ารองเท้าคู่นี้ช่วยอะไรเรามากนัก นอกจากความรู้สึกของโฟม
– ตัวโฟม FlyteFoam blast ที่มากับรุ่นนี้ ให้ความรู้สึกที่ค่อนไปทาง Firm แน่น รับแรงกระแทกได้ แต่ไม่นุ่มนะครับ โฟมพร้อมเด้งส่ง แต่เอาตรงๆ คือยังไม่สุดเทียบเท่า Super Shoes (อะ แน่นอน เพราะตัว Top ของเค้าคือ FlyteFoam Turbo ที่จะมากับ Asics Metaspeed Sky ซึ่งผมได้แอบลองสวมมา อันนั้นเด้งจริง สู้กับตัวท๊อปเรือธงค่ายอื่นได้)
– ดรอบ ตัวนี้อยู่ที่ 5mm ซึ่งน้อยกว่า Racing shoes ทั่วไปที่จะอยู่กันราวๆ 8-10 mm ถ้ารวมกับ Guidesole ทรงม้าโยกของตัวนี้แล้ว ผมคิดว่ามันช่วยส่ง แต่ไม่ได้ส่งแบบหัวทิ่มพุ่งไปข้างหน้าขนาดนั้น และเนื่องจากดูรวมๆ แล้วมันก็จะมีทรงม้าโยกแค่ปลายเท้า ก็อาจจะไม่ได้ช่วยในการควงรอบขามากนัก คิดว่าเน้นเรื่องของการคอนโทรลมากกว่า
– ผ้าอัพเปอร์ 2 ชั้น แต่ก็ยังถือว่าบาง มีความเป็นรูๆ วิ่ง 20 km บนลู่ในห้องพัดลม ก็ไม่ได้รู้สึกร้อนเท้า ถือว่าระบายอากาศดีเลยครับ
– ยาง AHAR ที่เอามาทำ Outsole ให้มาเต็มแผ่น เต็มพื้น ไม่งกเลยครับ ดูหนา และแข็งแรงทนทาน เขาบอกว่าให้มาเยอะเพื่อเพิ่มการยึดเกาะ แต่เกมพลิกนิดนึง หลังจากการทดลองบนพื้นถนน แล้วผมคิดว่ามีลื่นบนถนนที่เปียกนิดหน่อยครับ (ไม่กล่าเทโค้งแรงๆ) แต่ดูจากที่วิ่งไป พื้นยังอยู่ครบ คิดว่าน่าจะใช้ได้นาน อยู่กันไปยาวๆครับ
– ลิ้นรองเท้าบาง ขอบรองเท้ารอบส้นก็บาง ให้ความรู้สึกเป็นรองเท้า Racing หรือ Speed ดีครับ
– Cushion ตรงส้นด้านในรองเท้าก็ช่วยล็อคข้อเท้าดีไม่มีเสียดสีอะไร ซึ่งตอนลองทั้งหมดผมใส่ถุงเท้ายาวครึ่งแข้งนะครับ
– เชือกรองเท้าปกติ ความยาวพอดี ผูกชั้นเดียวก็ไม่หลุดระหว่างวิ่ง รูร้อยเชือกมีรูเพิ่มรูสุดท้ายให้ผูกแบบล็อคข้อเท้า วึ่งผมลองแบบใส่รูสุดท้ายแล้วรู้สึกล็อคข้อเท้าดีกว่าแบบไม่ใส่นิดนึงครับ แต่ไม่ใส่รูสุดท้ายก็ไม่ได้รู้สึกว่าไม่แน่นอะไร ไม่เสียหาย แล้วแต่คนชอบครับ
.
เมื่อเอาแต่ละข้อมาประกอบรวมกันแล้ว
ผมคิดว่ารองเท้าคู่นี้ อยู่ในตระกูล Racing แต่ไม่ใช่ Super Shoes เป็นตัวกึ่งกลางระหว่างใส่ซ้อมและใส่แข่ง
ถ้าเป็นผม ผมจะเอาไว้สำหรับใส่ซ้อมในวันที่มีการใช้ความเร็วมากกว่า Jog หรือ easy run ทั่วไป เช่น Tempo Interval หรือ Fartlek ส่วนตัวคิดว่าเราจะสามารถใช้ประโยชน์จากรองเท้าคู่นี่ได้เต็มที่หากเราเป็นคนที่ลงกลาง และปลายเท้า และใช้ความเร็ว ตั้งแต่ เพซ 6 หรือ 5.30 ลงมา เพื่อให้โฟม (เด้ง) และแผ่นคาร์บอน (ดีด) และ ทรง Guidesole (ไหล) ได้ทำงาน (ผมชอบที่สุดช่วงเพซ 4-5 กดมันดีครับ)
ส่วนเรื่องระยะทางผมว่าไปได้ทุกระยะ
.
สรุปคือเป็นรองเท้าซ้อมที่ดีอีกคู่หนึ่ง (ที่สามารถเอาไปแข่งได้ในยามขัดสน) ซึ่งอยู่ย่านราคาที่ไม่แรงนัก ด้วยความที่พื้นรองเท้าดูค่อนข้างทนทาน น่าจะใช้ได้นาน คิดว่าคุ้มค่าครับ
.
(ตรงไซส์ไม่ต้องเผื่อครับ)
7. Freedom Fluke

รีวิวง่ายๆสไตล์ฟรีด้อม
แกะกล่องออกมาใส่เลย วันนี้ตั้งใจวิ่งเทส 5k
พอได้ลองรู้สึก เบา นุ่ม เด้ง ไหล
เบา : ที่จริงรองเท้ารุ่นนี้ไม่ได้เบาสักเท่าไหร่ผมชั่ง นน.ได้ที่ 235.5g/ข้าง ไซส์ 9.5 us 27.5cm เมื่อได้ลองใส่จริงมันกลับเบาแบบไม่รู้สึกเป็นภาระขาเลยวิ่งได้แบบสบายยาวๆเลยครับ
นุ่ม : ด้วยโฟม Blast ค่อนข้างหนาที่คอยรับแรงกระแทกได้ดี รู้สึกมั่นคง เฟิร์ม ไม่ยวบ
เด้ง : เริ่วจากการวิ่งวอร์มอัพเพซ 5.45-5.30 ยังไม่รู้สึกดีด หรือเด้งอะไร แต่เมื่อได้กดเพซ 4.45-4.00 รู้สึกว่าเริ่มมันส์ มันบังคับลงกลางเท้า และหน้าเท้า มีการตอบสนองดีขึ้นมารู้สึกพุ่งขึ้นแต่ว่าก็ไม่ได้เด้งอะไรมามาย ถือว่ายังเด้งน้อย
ไหล : ดูลักษณะรองเท้าเห็นเลยว่ามีความโค้ง rocker shape โค้งมาก จึงทำให้การวิ่งไหลๆ รอบขานี่จัดจ้านเลยแหละ วิ่งช้าๆไหลเรื่อยๆก็สนุก ถึงจะวิ่งเร็วก็ยังมันส์ ด้วยความโค้งของพื้นชวนให้ไหลได้เรื่อยๆกับทุกๆความเร็วเลยครับ
Asics Magic Speed ส่วนตัวผมแล้วเป็นรองเท้า racing ที่วิ่งช้าได้สนุกกลิ้งเท้าไหลๆเรื่อยๆ วิ่งเร็วได้ดีระดับหนึ่ง เหมาะกับมือใหม่ถึงระดับอีลิท ในการซ้อม tempo interval รวมถึงใส่แข่งได้เลยครับ
เป็นรองเท้าอีกคู่ที่ควรมี แนะนำเพิ่มไซส์จากปกติ 0.5 จะใส่สบายอีกหน่อยเพราะช่วงหัวรองเท้าค่อนข้างสั้นนิดนึง
8. Pong Run2Paradise

“Magic Speed รวม 3 เทคโนโลยีสุดปังของ Asics ในช่วง 3 ปีหลังไว้ในคู่เดียว”
เทคโนโลยีปังแรก คือ พื้นรองเท้าทรงโค้งหรือ GuideSole ที่ช่วยผลักตัวไปข้างหน้า
เทคโนโลยีปังสอง คือ โฟม FlyteFoam Blast โฟมที่นุ่มเด้งสุดของ Asics ในตอนนี้
เทคโนโลยีปังสาม คือ การใช้ Carbon Plate ไม่เต็มแผ่นเพื่อช่วยดีดผลักตัวไปข้างหน้า
Weight: 230 กรัม สำหรับ US M9 ถือว่าไม่เบาไป หรือหนักไป ใส่ทำความเร็วแบบขีดสุดพอไหว แต่ถ้าจะเทียบกับรองเท้าในสาย Racing จ๋าๆ อาจจะเสียเปรียบเรื่องน้ำหนัก แต่ถ้าเทียบกับรองเท้าสาย Daily Trainer ใส่ซ้อม ใส่แข่ง Magic Speed ถือว่าน้ำหนักดีเลยทีเดียว
Upper: มีความกระชับ ติดเท้า การระบายอากาศดีโดยเนื้อผ้ามี 2 ชั้น ประทับใจในช่วงส้นที่มีนวมบุด้านหลังส้นช่วยให้กระชับ และสบายช่วงส้นมาก แต่ความกระชับในส่วนของกลางเท้าบางทีรู้สึกแน่นถ้าไล่เชือกไม่ดีอาจจะต้องคลายเชือกไล่เชือกหลังจากสวมรองเท้าอีกที
Midsole: FlyteFoam Blast ทำให้คาดหวังว่ารุ่นนี้จะมีความนุ่ม แต่ในความเป็นจริงแล้ว Magic Speed มีความแน่นและเฟริ์มมากกว่า ต้องใช้เวลานวดโฟมซักพักโฟมจะนุ่มขึ้น อาจจะเพราะด้วยทรงรองเท้าแบบ Guidsole และแผ่นคาร์บอน เน้นการกลิ้งผลักตัวไปข้างหน้ามากกว่า ทำให้ช่วงพื้นให้อารมณ์ “แน่น ไหล ดีด ผลัก” ส่วนสำคัญที่ทำให้ประทับใจในส่วน Midsole อีกอย่างคือ ช่วงกลางเท้าค่อนข้างกว้างทำให้รู้สึกมั่นคงมาก
Outsole:พื้นยางแบบเต็มแผ่นมั่นใจเรื่องความทนทาน ส่วนเรื่องการยึดเกาะหลังการใช้งานวิ่งเร็ว ค่อนข้างประทับใจ การเข้าโค้งไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องของพื้นลื่นอาจจะต้องรอในการทดสอบต่อไป
Sizing: เท้าจริง 25.5 cm. เลือกใส่ Asics Magic Speed 27 cm. (US M9) ใส่สบายเหลือช่องว่างประมาณหนึ่งนิ้วโป้งกด หน้าเท้ามีด้านข้างเหลือทำให้มั่นใจได้ว่า
สรุป: Asics Magic Speed เป็นรองเท้าที่รวมความปังในช่วงหลังของ Asics เรียกได้ว่ามีเรื่องเล่าปูทางที่น่าสนใจ และหลังจากลองใส่ กล้าพูดได้เต็มปากกว่าไม่ผิดหวัง ประกอบกับราคาเปิดที่ 5500 เรียกว่าแทบจะถูกสุดในรองเท้าที่มีแผ่นคาร์บอนแล้วเลยยิ่งน่าสนใจ อย่างไรก็ตามรองเท้าไม่ได้มีความนุ่มเท่า Novablast ถ้าคาดหวังความนุ่ม Asics Magic Speed อาจจะต้องผิดหวัง แต่ถ้ากำลังหารองเท้าแนว “แน่น ไหล ดีด ผลัก” ต้องไม่ผิดหวังแน่นอน
RUN 2 PARADISE
Sign up to Newsletter
...and receive $20 coupon for first shopping.
STAY CONNECTED
BRANDS
- Active Peak(2)
- Altra(65)
- ApexBeat(5)
- Asics(70)
- BMAI(6)
- Brooks(5)
- CEP(19)
- CIELE(8)
- Compressport(15)
- Coros(9)
- CrampFix(2)
- FLOW(3)
- Injinji(9)
- La Sportiva(7)
- Luna(7)
- Mizuno(1)
- New Balance(22)
- Newton(27)
- Norda(3)
- On Running(46)
- OTE(3)
- OYeet(4)
- Reebok(1)
- Run2Paradise(1)
- Salming(18)
- STEIGEN(4)
- THY(7)
- Ultimate Direction(16)
- UnPause(5)
- YSandal(3)